คอลลาเจนที่ผู้ชายควรทาน seoul secret for men

seoul-secret-for-men

seoul secret for men คือ คอลลาเจนที่ผลิตมาเพื่อดูแลคุณผู้ชาย เป็นคอลลาเจนแบบเม็ด ทานง่าย กลิ่นไม่คาว คอลลาเจนสำหรับผู้ชายสูตรนี้เป็นสูตรลับเสริมความแมน โดยทำมาจากคอลลาเจนเปบไทด์บริสุทธิ์จากเกาหลี และ Zinc (ซิงค์) แร่ธาตุธรรมชาติจากอเมริกา  ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิวให้เปล่งใส ลดริ้วรอย รูขุมขนกระชับ ลดการเกิดสิวอุดตันและรักษารอยแผลจากสิว ช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเพศชายให้ตื่นตัว ประสาทสัมผัสต่างๆ ดีขึ้น ประโยชน์จาก Zinc เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่ช่วยรักษาบาดแผลในร่างกาย และช่วยให้ร่างกายดำรงความสมดุลในผู้ใหญ่ ช่วยสร้างเซลล์ เสริม Zinc ประกอบด้วยเอ็นไซม์ที่ควบคุมกระบวนการเผาผลาญ ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระโดยปัจจัยต่างๆ Zinc จะเข้าไปบำรุงระบบสืบพันธ์ บำรุงระบบประสาท และสร้างความแข็งแรงให้กับสเปิร์ม จึงนิยมนำมาเป็นแร่ธาตุเสริมสร้างเรื่องความฟิตของผู้ชาย

seoul secret for men ต่างจากยี่ห้ออื่นยังไง

  1. เป็นครั้งแรกของคอลลาเจนสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ
  2. คอลลาเจนแท้ที่ได้เพิ่มคุณค่าของ ZINC แร่ธาตุสำคัญจำเป็นสำหรับผู้ชาย
  3. seoul secret for men ต่างเป็น collagen peptide บริสุทธิ์ แท้ 100% ไม่ใส่สารเร่งหรือสารสังเคราะห์
  4. คอลลาเจนแท้ๆ ที่มีโมเลกุลเบามาก อัลต้าโลว์โมเลกุล ดูดซึมได้ดีมาก เพิ่มน้ำในผิว ไม่ทำให้อ้วน ยังทำให้น้ำในไขข้อดีขึ้น
  5. seoul secret for men เป็นคอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก มีความบริสุทธิ์มาก ปราศจากสารพิษ
  6. เป็นคอลลาเจนแบบเม็ด แบบเพียวๆ ทานง่าย ไม่คาว นำเข้าจากเกาหลี 100%
  7. seoul secret for men ที่ไม่อัดมิลลิกรัมมากเกินไป ดูดซึมง่าย ทำให้ไม่อ้วน ไม่มีผลย้อนกลับ เมื่อหยุดทาน
  8. สะดวก เหมาะกับคุณผู้ชาย ที่ทำให้พกพาสะดวกด้วยซองแบบซิป

seoul secret for men กำลังดัง ต่างเหมาะสำหรับผู้ชายที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป สถาพผิวหน้าเรื่มมีสัญญาณเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ผู้ที่พักผ่อนน้อย ผู้ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ  ผู้ดื่มแอลกอฮอลล์ สูบบุหรี่ ผู้ที่ออกแดดบ่อยๆ โดนแดดทำร้ายผิวบ่อยๆ ผลที่ได้รับรับหลังการทาน

คำถามยอดฮิต beta-curve ต่างจาก lipo8 ยังไงนะ

สำหรับผู้ที่กำลังเลือกทานอาหารเสริมลดความอ้วนอยู่ ไม่รู้ว่าจะเลือกทานตัวไหนดี ระหว่าง beta-curve กับ lipo8 จะมีคำถามที่ลูกค้ามักจะถามบ่อยๆ วันนี้เลยขออธิบายด้วยภาษาชาวบ้าน ๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ว่า มันดีทั้งสองตัวค่ะ อยู่ที่พฤติกรรมการกินอาหารของแต่ละคนด้วยค่ะ ถ้าเป็นคนที่ชอบทานข้าวเยอะ ทานจุกจิก ชอบทานขนมขบเคี้ยวโดยมากก็ทำมาจากแป้งและน้ำตาลเป็นหลัก อันนี้ก็ต้องทาน lipo8 ดีกว่า beta-curve  ค่ะ

จะกิน beta-curve เราก็ต้องรู้ว่าระบบร่างกายของคนเราจะย่อยข้าวไปเป็นแป้ง ย่อยแป้งไปเป็นน้ำตาล และย่อยจากน้ำตาลไปเป็นไขมันสะสมหรือพลังงานนั่นเอง โดยเราจะได้ผลพลอยได้ก็คือสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะไม่ขึ้นหรือบ้างคนอาจจะลดลงด้วยซ้ำไป โดยสังเกตได้ว่าคนที่มีน้ำหนักมาก ๆ มักจะเป็นเบาหวานด้วย นั่นก็เพราะว่าทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากเกินไป จึงทำให้เกิดการสะสมตามร่างกายทำให้มีน้ำหนักมากหรืออ้วนนั่นเอง

สำหรับ beta-curve สำหรับบางคนที่ว่าเราก็ทานอาหารปกติแต่ทำไมน้ำหนักเราขึ้นเอาๆ ในตัว Beta-curve เค้าจะลดส่วนผสมบางตัวจาก lipo8 ลงไปแล้วไปเพิ่มบางตัวเข้ามา

ใน beta-curve นั้นได้มีไคโตซาน 150 mg ซึ่งใน lipo8 จะมี 100 mg  มีถั่วขาว 100 mg ซึ่งใน lipo8 จะมี 250 mg มีส้มแขก 60 mg ซึ่งใน lipo8 จะมี 250 mg

จากส่วนผสม 3 ตัวนี้เราจะเห็นว่าในตัว ผลิตภัณฑ์ beta-curve จะเน้นไปทางดักจับไขมัน แต่เรื่องการบล็อกแป้งและน้ำตาลจะสู้ lipo8 ไม่ได้ แล้วที่เหลือไปไหน ตอนนี้ beta-curve มีส่วนผสมแค่ 310 mg แต่ lipo8 มี 600 mg ตอบเลยว่าไม่ได้หายไปไหนค่ะ เค้าไปเพิ่มตัวอื่นเข้ามาค่ะโดยเน้นเรื่องการเผาผลาญเข้ามาค่ะ คือ สารสกัดจากกระบองเพชร สารสกัดจากพริก แอลคานิทีน เบต้ากูลแคน โครเมี่ยม ยังเสริมด้วยวิตามินบี 6 ช่วยเรื่องระบบประสาท

ทีนี้เราก็คงจะเลือกให้กับตัวเราเองได้แล้วว่าเราควรเลือกตัวไหนที่ดีที่สุดสำหรับเรา อย่าง beta-curve